“สัปปะ รด พันธุ์เพชรบุรี"
พา เพื่อน ๆ ไปชิมสัปปะรดสายพันธุ์ใหม่ ที่แกะตากินได้เหมือนน้อยหน่า โดยไม่ต้องปอกเปลือกนะคะ เมื่อสองปีก่อนเราได้ยินข่าวเกี่ยวกับสัปปะรดสายพันธุ์นี้อยู่บ้าง สัปปะรดพันธุ์เพชรบุรี แต่คนเพชรบุรีส่วนใหญ่กลับไม่รู้จัก ซึ่งมีหน่อจำหน่ายให้มาปลูกกินเองเท่านั้น คือสามารถจะพอหากินได้ แต่ต้องเข้าไปในพื้นที่ และทางเจ้าหน้าที่ไม่สามารถระบุได้ชัดเจนว่ามีขายที่จุดใดบ้าง
เพราะสัปปะรดทั่วไปลูกใหญ่ ประมาณ 1 กก. ก้อตกราคาใบละ 70-80 บาทแล้ว
สัปปะรด พันธุ์เพชรบุรีมีต้นตระกูลอยู่ที่ใต้หวัน ภายใต้สายพันธุ์เดิมชื่อ "Tainan 41" ศูนย์วิจัยและพัฒนาการเกษตรเพชรบุรีได้นำจุกของมันมามาทำการเพาะเลี้ยงเนื้อ เยื่อเพื่อให้เพิ่มปริมาณ ผลการวิจัยพบว่ามีการเจริญเติบโตและให้ผลผลิตดีกว่าสายพันธุ์เดิม ล่าสุดศูนย์วิจัยและพัฒนาการเกษตรเพชรบุรี สำนักวิจัยและพัฒนาการเกษตรเขตที่ 5 ประสบผลสำเร็จในการพัฒนาพันธุ์สับปะรดพันธุ์นี้ หรือที่เรียกกันว่าสับปะรดไต้หวัน จนได้สับปะรดที่สามารถรับประทานได้ทันทีโดยไม่ต้องมานั่งปอกเปลือกเหมือน เช่นสับปะรดทั่วไป จากนั้นมีการเสนอคณะกรรมการวิจัยและพัฒนากรมวิชาการเกษตรพิจารณารับรอง พันธุ์ และคณะกรรมการได้มีมติรับรองเป็นพันธุ์แนะนำในวันที่ 18 มีนาคม 2541 ระยะเวลาประมาณ 10 ปี ในการวิจัยและพัฒนาปรับปรุงสายพันธุ์สับปะรดไต้หวัน จึงเป็นที่มาของ “สับปะรดพันธุ์เพชรบุรี” ไปในที่สุด
:เครดิตข้อมูลเพิ่มเติม คุณข้าวเหนียวหมูปิ้ง:
หน้าตาของสับปะรดพันธุ์เพชรบุรี เหมือนสับปะรดทั่วไป ขนาดใหญ่สุดโดยประมาณอยู่ที่ 1 กก. ดีไซน์สับประรดเพชรบุรีจะเป็นทรงเจดีย์ คือโป่งตรงก้น ส่วนด้านหัวจะมีขนาดลีบลงไปเรื่อย ๆ ลักษณะของตาค่อนข้างใหญ่และโปน ทำให้ดึงออกมารับประทานทีละตาได้สะดวก เนื้อมีสีเหลืองอมส้ม มีกลิ่นหอมแรง ส่วนหัวจะมีรสหวานอมเปรี้ยว แต่บริเวณก้นจะออกหวาน กรณีที่แก่จัดหรือที่ตามีสีเหลืองจะหวานมากทีเดียวนะคะ
มือใหม่หัดแกะค่อนข้างลำบากนิด หนึ่ง เราจะเจาะนำร่องเพื่อให้ได้พื้นที่โล่ง ๆ กันก่อน จากนั้นจึงทยอยฉีกทีละตามารับประทาน ลูกแรกเราทำการเจาะตรงกลางลูกเลย แต่ลูกนี้เรานำมาตัดจุกออกไปก่อน ซึ่งจะทำให้ปาดไปโดนตาสับปะรดติดไปด้วย ดังนั้นตาที่โดนตัดแล้วเหลือไม่เต็มตาเราเลาะออกไปด้วยมีดทีละตาให้เหลือตา เต็ม ๆ เท่านั้น จากนั้นจึงค่อยเลาะเด็ดตาเต็ม ๆ ที่เหลือมารับประทานทีละตา ตาที่อยู่ส่วนหัวนี้จะมีขนาดเล็กกว่าตาที่อยู่ส่วนล่าง ประกอบกับยังมีสีเขียวอยู่ จึงแกะยากกันนิดหนึ่ง ตาที่อยู่ช่วงบน ๆ เล่นเอาเจ็บมือเหมือนกัน แต่ประสบการณ์จะบอกเองว่าควรจะแกะอย่างไรให้มันง่ายขึ้นนะคะ อาจต้องใช้มีดเลาะแกนออกไปนิดหน่อยเพื่อนำร่อง เมื่อแกะไปเรื่อย ๆ จนลงด้านล่างรู้สึกว่าจะแกะได้ง่ายขึ้น อาจเป็นเพราะตาใหญ่ขึ้นหรือด้านล่างจะสุกมากกว่าด้านหัวนะคะ
ออกทีละตาไปเรื่อย ๆ ปริมาณน้ำจะฉ่ำตามขึ้นมาตามลำดับ ต้องคอยเทน้ำทิ้งอยู่บ่อย ๆ ไม่งั้นจะพาลไหลหยดย้อยเลอะเทอะหมดนะคะ ท่านเจ้าคุณอาของเราบ่นว่าผ่ามากินเหมือนสัปปะรดทั่วไปก้อหมดเรื่อง ไม่ต้องมาแกะทีละตา มือก้อไม่ต้องเลอะอยู่ตลอดเวลาด้วย ซึ่งพวกเราเห็นว่าการกินสัปปะรดพันธุ์เพชรบุรีที่จะให้ได้อรรถรสสูง ควรแกะทานทีละตา ไม่งั้นเสียสายพันธุ์หมดนะคะ ความจริงแล้วจะว่าแกะยากก้อไม่เชิง จะว่าแกะง่ายไม่ใช่ แต่การแกะตาน้อยหน่าหรือแกะขนุนง่ายกว่าแยะมาก คือต้องมีความพยายามและมีเทคนิคกันนิดหนึ่ง ลูกแรกอาจจะแกะตาลำบากนิดหนึ่งนะคะ
Credit : http://atcloud.com/stories/85621